ส่วนของ ScaleControlOptions คือส่วนที่แสดงสเกลอัตราส่วนของแผนที่ โดยปกติจะไม่แสดง และถ้าต้องการ
แสดงต้องกำหนดใน option ของ map ให้เป็น scaleControl:true, ตำแหน่งเริ่มต้นเมื่อแสดง scaleControl จะอยู่
มุมล่างด้านซ้ายต่อหลังจากโลโก้ของ Google การจัดการในส่วนของ ScaleControlOptions นี้ ทำให้เราสามารถกำหนด ตำแหน่ง และ รูปแบบได้
ตำแหน่งต่าๆ งประกอบไปด้วย
ภาพประกอบจาก Google
BOTTOM แสดงชิดขอบล่างตรงกลาง
BOTTOM_LEFT แสดงชิดขอบล่างด้านซ้ายต่อหลังจากโลโก้ของ Google
BOTTOM_RIGHT แสดงชิดขอบล่างด้านขวาก่อนคำว่า copyrights
LEFT แสดงชิดขอบข้างด้านซ้ายอยู่ใต้ส่วนอื่นที่ชิดขอบบนซ้ายลงมา
RIGHT แสดงชิดขอบข้างด้านขวาอยู่ใต้ส่วนอื่นที่ชิดขอบบนขวาลงมา
TOP แสดงชิดขอบบนตรงกลาง
TOP_LEFT แสดงชิดขอบบนด้านซ้ายขยับออกจากแนวตรงกลาง
TOP_RIGHT แสดงชิดขอบบนด้านขวาขยับออกจากแนวตรงกลาง
รูปแบบของ ScaleControlOptions มีเพียงรูปแบบเดียวจะกำหนด หรือไม่กำหนดก็ได้
DEFAULT แสดงสเกลอัตราส่วนของแผนที่ แบบมาตรฐาน
ส่วนที่ใช้ในการจัดตำแหน่ง ScaleControlOptions และรูปแบบ style ในโค้ด
// กำหนด Option ของแผนที่ var myOptions = { zoom: 13, // กำหนดขนาดการ zoom center: my_Latlng , // กำหนดจุดกึ่งกลาง mapTypeId:my_mapTypeId, // กำหนดรูปแบบแผนที่ scaleControl:true, // กำนหนดให้แสดงสเกลอัตราส่วน ในแผนที่ scaleControlOptions:{ // กำนหนดตำแหน่าง และรูปแบบ style ของสเกลอัตราส่วนของแผนที่ position:GGM.ControlPosition.BOTTOM_LEFT, // จัดตำแหน่ง style:GGM.ScaleControlStyle.DEFAULT // จัดรูปแบบ style } }; map = new GGM.Map(my_DivObj,myOptions);// สร้างแผนที่และเก็บตัวแปรไว้ในชื่อ map
คลิกดูผลลัพธิ์ การจัดตำแหน่ง และรูปแบบต่างๆ
ตัวอย่างโค้ด
<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd"> <html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"> <head> <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" /> <title>Google Map API 3 - 01</title> <style type="text/css"> html { height: 100% } body { height:100%; margin:0;padding:0; font-family:tahoma, "Microsoft Sans Serif", sans-serif, Verdana; font-size:12px; } /* css กำหนดความกว้าง ความสูงของแผนที่ */ #map_canvas { width:650px; height:400px; margin:auto; margin-top:50px; } .mybtTest{ border:1px solid #999; background-color:#000; color:#FFF; font-weight:bold; font-size:10px; } .mybtTest2{ border:1px solid #009; background-color:#069; color:#FFF; font-weight:bold; font-size:10px; } </style> </head> <body> <div id="map_canvas"></div> <div style="width:650px;text-align:left;margin:auto;"> <br /> <button class="mybtTest">BOTTOM</button> <button class="mybtTest">BOTTOM_LEFT</button> <button class="mybtTest">BOTTOM_RIGHT</button> <button class="mybtTest">LEFT</button> <button class="mybtTest">RIGHT</button> <button class="mybtTest">TOP</button> <button class="mybtTest">TOP_LEFT</button> <button class="mybtTest">TOP_RIGHT</button> <hr /> <button class="mybtTest2">DEFAULT</button> </div> <script type="text/javascript" src="js/jquery-1.4.2.min.js"></script> <script type="text/javascript"> var map; // กำหนดตัวแปร map ไว้ด้านนอกฟังก์ชัน เพื่อให้สามารถเรียกใช้งาน จากส่วนอื่นได้ var my_Marker; // กำหนดตัวแปรสำหรับเก็บตัว marker var infowindow; // กำหนดตัวแปรสำหรับเก็บตัว popup แสดงรายละเอียดสถานที่ var GGM; // กำหนดตัวแปร GGM ไว้เก็บ google.maps Object จะได้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น function initialize() { // ฟังก์ชันแสดงแผนที่ GGM=new Object(google.maps); // เก็บตัวแปร google.maps Object ไว้ในตัวแปร GGM // กำหนดจุดเริ่มต้นของแผนที่ var my_Latlng = new GGM.LatLng(13.761728449950002,100.6527900695800); var my_mapTypeId=GGM.MapTypeId.ROADMAP; // กำหนดรูปแบบแผนที่ที่แสดง // กำหนด DOM object ที่จะเอาแผนที่ไปแสดง ที่นี้คือ div id=map_canvas var my_DivObj=$("#map_canvas")[0]; // ตำแหน่งต่างประกอบไปด้วย // BOTTOM แสดงชิดขอบล่างตรงกลาง // BOTTOM_LEFT แสดงชิดขอบล่างด้านซ้ายต่อหลังจากโลโก้ของ Google // BOTTOM_RIGHT แสดงชิดขอบล่างด้านขวาก่อนคำว่า copyrights // LEFT แสดงชิดขอบข้างด้านซ้ายอยู่ใต้ส่วนอื่นที่ชิดขอบบนซ้ายลงมา // RIGHT แสดงชิดขอบข้างด้านขวาอยู่ใต้ส่วนอื่นที่ชิดขอบบนขวาลงมา // TOP แสดงชิดขอบบนตรงกลาง // TOP_LEFT แสดงชิดขอบบนด้านซ้ายขยับออกจากแนวตรงกลาง // TOP_RIGHT แสดงชิดขอบบนด้านขวาขยับออกจากแนวตรงกลาง // รูปแบบประกอบไปด้วย // DEFAULT แสดงปุ่มควบคุมการย่อขยายและส่วนควบคุมการเลื่อนตำแหน่งแบบเต็ม // หรือขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น // กำหนด Option ของแผนที่ var myOptions = { zoom: 13, // กำหนดขนาดการ zoom center: my_Latlng , // กำหนดจุดกึ่งกลาง mapTypeId:my_mapTypeId, // กำหนดรูปแบบแผนที่ scaleControl:true, // กำนหนดให้แสดงสเกลอัตราส่วน ในแผนที่ scaleControlOptions:{ // กำนหนดตำแหน่าง และรูปแบบ style ของสเกลอัตราส่วนของแผนที่ position:GGM.ControlPosition.BOTTOM_LEFT, // จัดตำแหน่ง style:GGM.ScaleControlStyle.DEFAULT // จัดรูปแบบ style } }; map = new GGM.Map(my_DivObj,myOptions);// สร้างแผนที่และเก็บตัวแปรไว้ในชื่อ map my_Marker = new GGM.Marker({ // สร้างตัว marker position: my_Latlng, // กำหนดไว้ที่เดียวกับจุดกึ่งกลาง map: map, // กำหนดว่า marker นี้ใช้กับแผนที่ชื่อ instance ว่า map // draggable:true, // กำหนดให้สามารถลากตัว marker นี้ได้ title:"คลิกเพื่อดูรายละเอียดของสถานที่!" // แสดง title เมื่อเอาเมาส์มาอยู่เหนือ }); /* infowindow = new GGM.InfoWindow({ content:$.ajax({ url:'placeDetail.php', async:false }).responseText });*/ // กำหนด event ให้กับตัว marker เมื่อคลิกที่ตัว marker ให้แสดง infowindows GGM.event.addListener(my_Marker, 'click', function() { // infowindow.open(map,my_Marker); var my_Point = my_Marker.getPosition(); // หาตำแหน่งของตัว marker เมื่อกดลากแล้วปล่อย // map.panTo(my_Point); // ให้แผนที่แสดงไปที่ตัว marker // $("#lat_value").val(my_Point.lat()); // เอาค่า latitude ตัว marker แสดงใน textbox id=lat_value // $("#lon_value").val(my_Point.lng()); // เอาค่า longitude ตัว marker แสดงใน textbox id=lon_value // $("#zoom_value").val(map.getZoom()); // เอาขนาด zoom ของแผนที่แสดงใน textbox id=zoom_value }); GGM.event.addListener(my_Marker, 'click', function() { // infowindow.open(map,my_Marker); var my_Point = my_Marker.getPosition(); // หาตำแหน่งของตัว marker เมื่อกดลากแล้วปล่อย // map.panTo(my_Point); // ให้แผนที่แสดงไปที่ตัว marker // $("#lat_value").val(my_Point.lat()); // เอาค่า latitude ตัว marker แสดงใน textbox id=lat_value // $("#lon_value").val(my_Point.lng()); // เอาค่า longitude ตัว marker แสดงใน textbox id=lon_value // $("#zoom_value").val(map.getZoom()); // เอาขนาด zoom ของแผนที่แสดงใน textbox id=zoom_value }); // กำหนด event ให้กับตัวแผนที่ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการ zoom GGM.event.addListener(map, 'tilesloaded', function() { // infowindow.open(map,my_Marker); // $("#zoom_value").val(map.getZoom()); // เอาขนาด zoom ของแผนที่แสดงใน textbox id=zoom_value }); // กำหนด event ให้กับตัวแผนที่ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการ zoom GGM.event.addListener(map, 'zoom_changed', function() { // $("#zoom_value").val(map.getZoom()); // เอาขนาด zoom ของแผนที่แสดงใน textbox id=zoom_value }); } var tmpPosition; var tmpStyle; $("button.mybtTest").click(function(){ var mapScaleControlOpt=$(this).text(); tmpPosition=eval("GGM.ControlPosition."+mapScaleControlOpt); map.setOptions({ scaleControlOptions:{ position:eval("GGM.ControlPosition."+mapScaleControlOpt), style:tmpStyle } }); }); $("button.mybtTest2").click(function(){ var mapScaleControlOpt=$(this).text(); tmpStyle=eval("GGM.ScaleControlStyle."+mapScaleControlOpt); map.setOptions({ scaleControlOptions:{ position:tmpPosition, style:eval("GGM.ScaleControlStyle."+mapScaleControlOpt) } }); }); $(function(){ // โหลด สคริป google map api เมื่อเว็บโหลดเรียบร้อยแล้ว // ค่าตัวแปร ที่ส่งไปในไฟล์ google map api // v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize // v เวอร์ชัน่ 3.2 // sensor กำหนดให้สามารถแสดงตำแหน่งที่เปิดแผนที่อยู่ได้ เหมาะสำหรับมือถือ ปกติใช้ false // language ภาษา th ,en เป็นต้น // callback ให้เรียกใช้ฟังก์ชันแสดง แผนที่ initialize $("<script/>", { "type": "text/javascript", src: "//maps.google.com/maps/api/js?v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize" }).appendTo("body"); }); </script> </body> </html>