ตัวอย่างและวิธีการต่อไปนี้ เป็นแนวทางในการสร้าง animation แนะนำเส้นทาง ตามพิกัดใน google map ที่กำหนด แบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการกำหนด พิกัดแนวเส้นทางเป็นตัวแปร array แล้วนำค่าพิกัด ดังกล่าวไปสร้างเส้น polyline เชื่่อมต่อระหว่างจุดเส้นทาง สามารถนำไปประยุกต์เพิ่มเติมได้
คำอธิบายแสดงไว้ในตัวอย่างโค้ด
ตัวอย่างโค้ด
<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd"> <html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"> <head> <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" /> <title>Google Map API 3 - 01</title> <style type="text/css"> html { height: 100% } body { height:100%; margin:0; padding:0; font-family:tahoma, "Microsoft Sans Serif", sans-serif, Verdana; font-size:12px; } /* css กำหนดความกว้าง ความสูงของแผนที่ */ #map_canvas { position:relative; width:550px; height:400px; margin:auto; } /* css สำหรับ div คลุม google map อีกที */ #contain_map { position:relative; width:550px; height:400px; margin:auto; margin-top:50px; } </style> </head> <body> <div id="contain_map"> <div id="map_canvas"></div> </div> <script type="text/javascript" src="js/jquery-1.4.2.min.js"></script> <script type="text/javascript"> var route_latlng=[];// กำหนดตัวแปร array สำหรับ เก็บ จุดพิกัดเส้นทาง // เก็บ จุดพิกัดเส้นทาง หาได้จากหัวข้อ route_latlng[0]="13.7617701333367,100.63734054565421"; route_latlng[1]="13.762353699970583,100.64193248748771"; route_latlng[2]="13.762728849180767,100.6456232070922"; route_latlng[3]="13.765938434495806,100.64536571502677"; route_latlng[4]="13.766313577956411,100.64789772033683"; route_latlng[5]="13.772440835950021,100.64712524414054"; route_latlng[6]="13.775025073483476,100.64519405364981"; route_latlng[7]="13.779193138322167,100.64429283142081"; route_latlng[8]="13.783736244298248,100.64738273620597"; route_latlng[9]="13.789571296636877,100.65133094787589"; var route_latlng_length=route_latlng.length; // // กำหนดตัวแปร เก็บความยาว array var flightPath; // กำหนดตัวแปร สำหรับเก็บ object สร้าง Polyline var flightPlanCoordinates; var my_Marker=[]; var map; // กำหนดตัวแปร map ไว้ด้านนอกฟังก์ชัน เพื่อให้สามารถเรียกใช้งาน จากส่วนอื่นได้ var GGM; // กำหนดตัวแปร GGM ไว้เก็บ google.maps Object จะได้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น var my_Latlng; // กำหนดตัวแปรสำหรับเก็บจุดเริ่มต้นของเส้นทางเมื่อโหลดครั้งแรก function initialize() { // ฟังก์ชันแสดงแผนที่ GGM=new Object(google.maps); // เก็บตัวแปร google.maps Object ไว้ในตัวแปร GGM // กำหนดจุดเริ่มต้นของแผนที่ var myRouteLatLng=route_latlng[0].split(","); my_Latlng = new GGM.LatLng(myRouteLatLng[0],myRouteLatLng[1]); // กำหนดตำแหน่งปลายทาง สำหรับการโหลดครั้งแรก var my_mapTypeId=GGM.MapTypeId.ROADMAP; // กำหนดรูปแบบแผนที่ที่แสดง // กำหนด DOM object ที่จะเอาแผนที่ไปแสดง ที่นี้คือ div id=map_canvas var my_DivObj=$("#map_canvas")[0]; // กำหนด Option ของแผนที่ var myOptions = { zoom: 15, // กำหนดขนาดการ zoom center: my_Latlng , // กำหนดจุดกึ่งกลาง จากตัวแปร my_Latlng mapTypeId:my_mapTypeId // กำหนดรูปแบบแผนที่ จากตัวแปร my_mapTypeId }; map = new GGM.Map(my_DivObj,myOptions); // สร้างแผนที่และเก็บตัวแปรไว้ในชื่อ map my_Marker[0] = new GGM.Marker({ // สร้างตัว marker position:my_Latlng, // กำหนดไว้ที่เดียวกับจุดกึ่งกลาง map: map, // กำหนดว่า marker นี้ใช้กับแผนที่ชื่อ instance ว่า map }); if(map){ // เงื่่อนไขถ้ามีการสร้างแผนที่แล้ว var start_myRouteLatLng=route_latlng[0].split(",");// ดึงค่าพิกัด เรีมต้น flightPlanCoordinates = [ // กำหนดค่า พิกัดเริ่มต้นใน array สำหรับสร้างเส้น polyline new GGM.LatLng(start_myRouteLatLng[0],start_myRouteLatLng[1]) ]; flightPath = new GGM.Polyline({ // กำหนดรูปแบบของเส้น polyline ทีต้องการสร้าง strokeColor: "#03C", // สีของ polylines strokeOpacity: 1.0, // ความโปร่งใส strokeWeight: 4 //ความหนาของเส้น polylines }); var i_count=0; // กำหนดตัวแปร สำหรับเริ่มต้นนับการสร้างเส้น polyline var animateS=setInterval(function(){ // ตั้งเวลาให้สร้างเส้น polyline ต่อเนื้องทุก 3 วินาที i_count++; // เพิ่มค่าตัวนับ if(i_count<route_latlng_length){ // ถ้ายังไม่ถึงตำแหน่งสุดท้าย ให้สร้างเส้น polyline ต่อ var myRouteLatLng=route_latlng[i_count].split(","); // หาพิกัดถัดไป map.setCenter(new GGM.LatLng(myRouteLatLng[0],myRouteLatLng[1])); // กำหนดจุดกึ่งกลางแผนที่ my_Marker[i_count] = new GGM.Marker({ // สร้างตัว marker position:new GGM.LatLng(myRouteLatLng[0],myRouteLatLng[1]), // กำหนดไว้ที่เดียวกับจุดกึ่งกลาง map: map, // กำหนดว่า marker นี้ใช้กับแผนที่ชื่อ instance ว่า map }); // เชื่อมตำแหน่งในเส้น polyline จากตัวแปร array flightPlanCoordinates.push(new GGM.LatLng(myRouteLatLng[0],myRouteLatLng[1])); flightPath.setPath(flightPlanCoordinates); //สร้างเส้น path flightPath.setMap(map); //นำเส้น path polyline ไปสร้างในแผนที่ }else{ // เงื่อนไขถ้าถึงจุดสุดท้ายแล้ว flightPath.setMap(); // ลบเส้น polylines ออกจากแผนที่ for(i=1;i<route_latlng_length;i++){ // วนลูปลบตัว marker my_Marker[i].setMap(); // ลบตัว marker } var flightPlanCoordinates_new=flightPlanCoordinates.shift(); // ดึงค่าจุดเริ่มต้น จาก array map.setCenter(flightPlanCoordinates_new); // กำหนดแผนที่ไปที่จุดเริ่มต้น flightPlanCoordinates=[]; // ล้างค่า array ที่ใช้สร้างเส้น polylines flightPlanCoordinates[0]=flightPlanCoordinates_new; // กำหนดค่าเริ่มต้นใหม่ i_count=0; // เริ่มต้นตัวนับใหม่ // clearInterval(animateS); // เอาคอมเม้นส่วนนี้ออก ถ้าไม่ต้องการวนแสดงอีกครั้ง } },3000); } } $(function(){ // โหลด สคริป google map api เมื่อเว็บโหลดเรียบร้อยแล้ว // ค่าตัวแปร ที่ส่งไปในไฟล์ google map api // v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize // v เวอร์ชัน่ 3.2 // sensor กำหนดให้สามารถแสดงตำแหน่งทำเปิดแผนที่อยู่ได้ เหมาะสำหรับมือถือ ปกติใช้ false // language ภาษา th ,en เป็นต้น // callback ให้เรียกใช้ฟังก์ชันแสดง แผนที่ initialize $("<script/>", { "type": "text/javascript", src: "//maps.google.com/maps/api/js?v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize" }).appendTo("body"); }); </script> </body> </html>