การใช้งาน Text to Speech ข้อความเป็นเสียงด้วย Flutter TTS

บทความใหม่ ไม่กี่เดือนก่อน โดย Ninenik Narkdee
text to speech flutter tts flutter

คำสั่ง การ กำหนด รูปแบบ ตัวอย่าง เทคนิค ลูกเล่น การประยุกต์ การใช้งาน เกี่ยวกับ text to speech flutter tts flutter

ดูแล้ว 298 ครั้ง


บทความต่อไปนี้ เราจะมาใช้งาน Text to Speech (TTS)
ในการแปลงข้อความเป็นเสียงพูด  หรือจากข้อความเป็นเสียง
ซึ่งโดยหลักการทำงานแล้ว ก็จะเป็นการไปดึงความสามารถของ
แอป TTS ถ้าเป็นของ Google ก็จะเป็นแอปชื่อ Speech Recognition
 & Synthesis โดยมักจะติดตั้งมาในเครื่อง android ส่วนใหญ่อยู่แล้ว
แต่บางครั้งเราอาจจะต้องไปติดตั้งภาษาหรือเสียงที่ต้องการใช้งานเพิ่มเติม
นอกจากเสียงเริ่มต้นที่มีมาให้ ถ้าเป็นของไทยส่วนใหญ่ก็มักรองรับภาษาไทย
และภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่เครื่องใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น
    ในการใช้งาน TTS บน flutter เราจะใช้งานแพ็กเก็จที่ชื่อว่า Flutter_tts
ซึ่งจะเป็นตัวจัดการร่วมกับ TTS ที่ติดตั้งในระบบให้เราอีกที หลักๆ โดยการใช้งานทั่วไป
เราจะแค่ตั้งค่าเล็กน้อย และเรียกใช้งาน ไม่ยุ่งยาก 
 

ติดตั้ง package ที่จำเป็นเพิ่มเติม ตามรายการด้านล่าง

    แพ็กเก็จที่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มเติม สำหรับการทำงานมีดังนี้
 
  flutter_tts: ^4.0.2
  
 
 
    การบอกให้แอปนั้นสามารถรองรับการทำงานบางสิ่งบางอย่าง หรือการใช้งานร่วมกับแอป
ที่เกี่ยวข้องได้ ในที่จะเป็นการกำหนดการใช้งานร่วมกับ TTS_SERVICE 
ไฟล์ android > app > src > main > AndroidManifest.xml
 
<manifest xmlns:android="http://schemas.android.com/apk/res/android">
    <uses-permission android:name="android.permission.INTERNET" />
     ..........
    <application
        android:label="Demo App"
        android:name="${applicationName}"
        android:icon="@mipmap/ic_launcher">
        <activity
            android:name=".MainActivity"
     ..........
    </application>
 
    <queries>
        <intent>
            <action android:name="android.intent.action.PROCESS_TEXT"/>
            <data android:mimeType="text/plain"/>
        </intent>
         <intent>
            <action android:name="android.intent.action.TTS_SERVICE" />
        </intent>    
    </queries>
     ..........
     .......
</manifest>
 
 

การใช้งาน Flutter_TTS อ่านข้อความเป็นเสียง

    แนวทางที่เราจะประยุกต์จะเป็นรูปแบบที่ง่ายและเห็นภาพรวม และอาจจะไม่ได้ตรวจสอบอะไรมากนัก
เราจะสร้างหน้าสำหรับกรอกข้อมูลที่เป็นข้อความ ที่ต้องการให้อ่านออกเสียง โดยสามารถพิมพ์ข้อความ
ที่ต้องการ หรือจะคัดลากจากที่อื่นมาวางผ่านการใช้งาน clipbaord ก็ได้ เมื่อกรอกข้อความ ก็จะแสดง
ปุ่มสำหรับเล่นหรืออ่านออกเสียงข้อความ ในระหว่างการอ่านออกเสียง เราสามารถกดหยุดชั่วคราว และ
ให้อ่านต่อได้ หรือจะกดปุ่มหยุดที่แสดงข้างๆ ก็ได้
    ในตัวอย่างเรากำหนดภาษาที่ใช้งานเป็นภาษาไทย ดังนั้นจะอ่านออกเสียงข้อความภาษาไทยได้ดี แต่
ถ้ามีภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นปน ก็อาจจะอ่านออกเสียงภาษานั้นๆ ในสำเนียงไทย ซึ่งเป็นปกติของระบบ
tts เบื้องต้นโดยทั่วไป 
 

ไฟล์ ttssimple.dart

import 'package:flutter/material.dart';
import 'package:flutter/services.dart'; // สำหรับ Clipboard
import 'package:flutter_tts/flutter_tts.dart';

/*
ตัวแปร enum  คือ ชนิดข้อมูลพิเศษ ที่ใช้ในการกำหนดชุดของค่าคงที่ที่เกี่ยวข้องกัน 
ซึ่งแต่ละค่าภายใน enum จะมีชื่อและมีการระบุไว้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ในกรณีที่ต้องการกำหนดตัวเลือกที่มีค่าแน่นอน เช่น สถานะต่าง ๆ, ระดับความยาก, หรือประเภทของข้อมูล  
*/
// กำหนดสถานะการทำงานของของ tts (text to speech)
enum TtsState { playing, stopped, paused, continued }
  
class Ttssimple extends StatefulWidget {
    static const routeName = '/ttssimple';
 
    const Ttssimple({Key? key}) : super(key: key);
  
    @override
    State<StatefulWidget> createState() {
        return _TtssimpletState();
    }
}
  
class _TtssimpletState extends State<Ttssimple> {
  // กำหนด tts แบบเรียกใช้งานได้ทันที่ จากค่าเริ่มค้น
  FlutterTts flutterTts = FlutterTts();
  // ส่วนสำหรับกำหนดการควบคุมข้อความ
  TextEditingController _controller = TextEditingController();
  late FocusNode _focusNode; // กำหนด focus โหนด
  bool _isFocused = false;  // ตัวแปรค่าโฟกัส

  // กำหนดสถานะของ tts เริ่มต้นเป็น stopped
  TtsState ttsState = TtsState.stopped;

  // สร้างตัวแปรแบบ getter เพื่อกำหนดสถานะ
  bool get isPlaying => ttsState == TtsState.playing;
  bool get isStopped => ttsState == TtsState.stopped;
  bool get isPaused => ttsState == TtsState.paused;
  bool get isContinued => ttsState == TtsState.continued;  

  @override
  initState() {
    super.initState();
    _voiceConfig(); // เรียกใช้งานตั้งค่าเสียง TTS
    _focusNode = FocusNode(); // กำหนดค่าให้โฟกัสโหนด

    // ตรวจจับการโฟกัสที่กล่องแก้ไขข้อความ focused/unfocused
    _focusNode.addListener(() {
      setState(() {
        // แล้วอัปเดทสถาานะการโฟกัส
        _isFocused = _focusNode.hasFocus;
      });
    });    
    
  }

  // ฟังก์ชั่นตั้งค่าเสียง TTS
  void _voiceConfig() async {
    await flutterTts.setLanguage("th-TH"); // กำหนดภาษา th-TH
    await flutterTts.setPitch(1.0);        // กำหนด pitch ของเสียง (1.0 คือปกติ 0.5-2.0)
    await flutterTts.setSpeechRate(0.5);   // กำหนด speed ของเสียง (0.5 คือปกติ 0.0-1.0) 

    // เรียกใช้ฟังก์ชั่นให้รอจนกว่าการพูดด้วย Flutter TTS จะจบก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
    _setAwaitOptions();

    // เมื่อการเริ่มเล่นเสียงถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setStartHandler(() {
      setState(() {
        print("Playing");
        ttsState = TtsState.playing; // อัปเดทสถานะเป็นกำลังเล่น
      });
    });

    // เมื่อการเล่นเสียงสิ้นสุด ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setCompletionHandler(() {
      setState(() {
        print("Complete");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถานะเป็นหยุด
      });
    });

    // เมื่อการยกเลิก ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setCancelHandler(() {
      setState(() {
        print("Cancel");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถาานะเป็นหยุด
      });
    });

    // เมื่อการหยุดชั่วคราว ถูเรียกใช้งาน
    flutterTts.setPauseHandler(() {
      setState(() {
        print("Paused");
        ttsState = TtsState.paused; // อัปเดทสถานะเป็นหยุดชั่วคราว
      });
    });

    // เมื่อการเริ่มเล่นเสียงต่อ ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setContinueHandler(() {
      setState(() {
        print("Continued");
        ttsState = TtsState.continued; // อัปเดทสถานะเป็นเล่นต่อ
      });
    });

    // เมื่อเกิด error ขึ้น
    flutterTts.setErrorHandler((msg) {
      setState(() {
        print("error: $msg");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถานะเป็นหยุด
      });
    });

  }

  // ฟังก์ชั่น บอกให้โปรแกรมรอจนกว่าการพูดด้วย Flutter TTS จะจบก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
  Future<void> _setAwaitOptions() async {
    await flutterTts.awaitSpeakCompletion(true);
  }

  // ฟังก์ชันสำหรับแปลงข้อความเป็นเสียง
  Future _speak(String text) async {
    await flutterTts.speak(text); // เริ่มพูดข้อความ
  }

  // ฟังก์ชั่นสำหรับหยุดอ่านออกเสียง
  Future<void> _stop() async {
    var result = await flutterTts.stop(); // ทำคำสังหยุด
    if (result == 1) setState(() => ttsState = TtsState.stopped); // อัปเดทสถานะ
  }

  // ฟังก์ชั่นสำหรับหยุดอ่านออกเสียงชั่วคราว
  Future<void> _pause() async {
    var result = await flutterTts.pause(); // ทำคำสังหยุดชั่วคราว
    if (result == 1) setState(() => ttsState = TtsState.paused); // อัปเดทสถานะ
  }  

  // ฟังก์ชันสำหรับการวางข้อความจาก Clipboard
  Future<void> pasteFromClipboard() async {
    ClipboardData? clipboardData = await Clipboard.getData('text/plain');
    if (clipboardData != null) {
      setState(() {
        _controller.text = clipboardData.text!;
      });
    }
  }  

  @override
  void dispose() {
    // ล้างค่าส่วนใช้งานต่างๆ ก่อน
    _controller.dispose();  // ล้างค่าตัวควบคุม
    _focusNode.dispose(); // ล้างค่าตัวเชื่อมโฟกัส
    flutterTts.stop();      // หยุดการดำเนินการของ TTS ทั้งหมด

    // ควรเรียกใช้ super.dispose() หลังสุด
    super.dispose();
  }  

  @override
  Widget build(BuildContext context) {
    return Scaffold(
      appBar: AppBar(
        title: const Text("TTS Example"),
        actions: [
          // ปุ่มเคลียร์ข้อความ แสดงเมื่อข้อความไม่ว่าง
          if(_controller.text.isNotEmpty) 
          TextButton(
            onPressed: (){
              setState(() {
                _controller.text = '';
              });
            }, 
            child: const Text('Clear'),
          ),
          // สำหรับปุ่มวางข้อความจาก clipboard
          IconButton(
            icon: const Icon(Icons.paste),
            onPressed: pasteFromClipboard, // เรียกฟังก์ชันวางข้อความจาก Clipboard
          ),
        ],
      ),
      body: Stack(
        children: [
          // ส่วนของช่องกรอกข้อความ
          TextField(
            controller: _controller, // เชื่อมกับตัวควบคุม
            focusNode: _focusNode, // เชื่อมกับตัวควบคุมการโฟกัส
            style: TextStyle(
              fontSize: 20,
            ),              
            maxLines: 50, // บรรทัดสูงสุดไม่เกิน
            keyboardType: TextInputType.multiline, // แป้นพิมพ์รองรับปุ่มขึ้นบรรทัดใหม่
            decoration: InputDecoration(
              border: InputBorder.none, // ไม่มีขอบ
              hintText: "กรอกข้อความตรงนี้", // ข้อความช่วยเหลือ ข้อความแนะนำ
              hintStyle: TextStyle( // กำหนดรูปแบบสี ขนาด
                color: Colors.grey[500],
              ),
              fillColor: Color(0xFFfdf8ef), // สีพื้นหลัง
              filled: true, // การเติมสี
            ),              
          ),
          // แสดงเมื่อกำลังแก้ไขข้อความอยู่่
          // ใช้ซ่อนแป้นพิมพ์ หรืออกจากโหมดแก้ไขข้อความ เมือกด
          if(_isFocused)
          Positioned(
            bottom: 16,
            left: 16,
            child: FloatingActionButton(
              elevation: 0, // Set elevation to 0 to remove shadow
              mini: true,
              onPressed: () {
                // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                _focusNode.unfocus();
              },
              heroTag: 'done_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: const Icon(Icons.arrow_drop_down),
            ),
          ),    
          // ส่วนของกรแสดงปุ่มหยุดโดยเฉพาะ แสดงเมื่อ กำลังเล่น หยุดชั่วคราว และกำลังเล่นต่อ
          if(isPlaying || isPaused || isContinued)   
          Positioned(
            bottom: 16,
            right: 80,
            child: FloatingActionButton(
              backgroundColor: Colors.red,
              elevation: 0, // กำหนดการยกเสูงเป็น 0 เพื่อไม่แสดงเงา
              shape: const CircleBorder(),
              onPressed: () {
                _focusNode.unfocus(); // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                // ถ้ากำลังเล่น หยุดชั่วคราว และกำลังเล่นต่อ ถ้ากดหยุด 
                if(isPlaying || isPaused || isContinued){
                  _stop(); // ให้ทำคำสั่งหยุดอ่านออกเสียง
                }
              },
              heroTag: 'stop_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: const Icon(Icons.stop),
            ),
          ),      
          // แสดงปุ่มเมื่อมีข้อความ หรือไม่เป็นค่าว่าง         
          if(_controller.text.isNotEmpty)      
          Positioned(
            bottom: 16,
            right: 16,
            child: FloatingActionButton(
              elevation: 0, // กำหนดการยกเสูงเป็น 0 เพื่อไม่แสดงเงา
              shape: const CircleBorder(),
              onPressed: () {
                _focusNode.unfocus(); // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                // ถ้ากำลังเล่นหรือ กำลังเล่นต่อยู่ เมื่อกดให้ หยุดชั่วคราว
                if(isPlaying || isContinued){
                  _pause(); // ทำคำสั่งหยุดชั่วคราว
                }
                // ถ้าหยุดอยู่ หรือ หยุดชั่วคราว เมื่อกด ให้เล่น หรือเล่นต่อ
                if(isStopped || isPaused){
                  String text = _controller.text;
                  if(text.isNotEmpty){
                    _speak(text); // ทำคำสั่งอ่านออกเสียงต่อ
                  }
                }
              },
              heroTag: 'play_pause_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: isPlaying || isContinued // ถ้ากำลังเล่น หรือเล่นต่อ
              ? const Icon(Icons.pause) // แสดงปุ่มหยุดชั่วคราว
              : const Icon(Icons.play_arrow), // เป็นอย่างอื่นแสดงปุ่มเล่น หรือเล่นต่อ
            ),
          ),          
        ],
      ),
    );
  }
}
 
 

ผลลัพธ์ทีได้



 
 
เราสามารถกรอกข้อความที่ต้องการ หรือวางจาก clipboard แล้วกดปุ่ม play เพื่อเริ่มทำการอ่าน
ออกเสียงจากข้อความ ปุ่ม play จะแสดงก็ต่อเมื่อมีข้อความ และจะเปลี่ยนเป็นไอคอนหยุดชั่วคราวถ้า
อยู่ในสถานะกำลังเล่นอยู่ ปุ่มหยุด จะแสดงข้างๆ ปุ่มหยุดชั่วคราว เมื่อกำลังอ่านข้อความอยู่ ถ้ากดหยุด
ชั่วคราว เราสามารถกดเล่นซ้ำ เพื่ออ่านต่อได้ หรือถ้าต้องการหยุดก็กดปุ่มหยุดสีแดงได้
    ในโค้ดเราพยายามไม่แทรกโค้ดอื่นๆ เข้ามาเยอะ เพื่อให้เข้าใจการทำงานและนำไปปรับใช้งานได้ง่าย
เช่น สมมติ เราต้องการให้อ่านเวลาทุกๆ เวลาที่กำหนดโดยการตั้งเวลาไว้ก็ได้ การใช้งาน tts ทำให้เรา
สามารถประยุกต์แจ้งเตือน หรืออำนวยความสะดวกแทนการมาสังเกตข้อความเป็นการฟังข้อมูลการแจ้ง
แทนได้
 
 

เพิ่มส่วนของการตั้งค่าการใช้งานใน Flutter_TTS

    กรณีเราต้องการให้ตัวแพ็กเก็จเสียงทำงานได้หลากหลายขึ้น เช่น สามารถปรับระดับเสียง ภาษาและ
เลือก engines หรือแพ็กเก็จเสียงเพิ่มเติมที่เครื่องได้ ถ้ามี เราจะมาปรับเพิ่มเล็กด้วย ด้วยการเพิ่มส่วน
ของการตั้งค่าต่างๆ เข้ามาจากโค้ดเดิม คำอธิบายแสดงในโค้ด
 

ไฟล์ ttssimple.dart (เพิ่มการตั้งค่า)

import 'package:flutter/material.dart';
import 'package:flutter/services.dart'; // สำหรับ Clipboard
import 'package:flutter_tts/flutter_tts.dart';

/*
ตัวแปร enum  คือ ชนิดข้อมูลพิเศษ ที่ใช้ในการกำหนดชุดของค่าคงที่ที่เกี่ยวข้องกัน 
ซึ่งแต่ละค่าภายใน enum จะมีชื่อและมีการระบุไว้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ในกรณีที่ต้องการกำหนดตัวเลือกที่มีค่าแน่นอน เช่น สถานะต่าง ๆ, ระดับความยาก, หรือประเภทของข้อมูล  
*/
// กำหนดสถานะการทำงานของของ tts (text to speech)
enum TtsState { playing, stopped, paused, continued }
  
class Ttssimple extends StatefulWidget {
    static const routeName = '/ttssimple';
 
    const Ttssimple({Key? key}) : super(key: key);
  
    @override
    State<StatefulWidget> createState() {
        return _TtssimpletState();
    }
}
  
class _TtssimpletState extends State<Ttssimple> {
  // กำหนด tts แบบเรียกใช้งานได้ทันที่ จากค่าเริ่มค้น
  FlutterTts flutterTts = FlutterTts();
  // ส่วนสำหรับกำหนดการควบคุมข้อความ
  TextEditingController _controller = TextEditingController();
  late FocusNode _focusNode; // กำหนด focus โหนด
  bool _isFocused = false;  // ตัวแปรค่าโฟกัส

  // ส่วนกำหนดค่า สำหรับตั้งค่าต่างๆ 
  String? language; // ภาษาที่เรียกใช้งาน
  String? engine; // แพ็กเก็จหรือ engines ตัวจัดการเสียง
  double volume = 0.5; // ระดับความดังของเสียง
  double pitch = 1.0; // ระดับของโทนเสียง
  double rate = 0.5; // ระดับอัตราความเร็วของการพูดออกเสียง
  bool isCurrentLanguageInstalled = false; // สถานะของภาษาที่เลือกว่าติดตั้งแล้วหรือไม่

  // กำหนดสถานะของ tts เริ่มต้นเป็น stopped
  TtsState ttsState = TtsState.stopped;

  // สร้างตัวแปรแบบ getter เพื่อกำหนดสถานะ
  bool get isPlaying => ttsState == TtsState.playing;
  bool get isStopped => ttsState == TtsState.stopped;
  bool get isPaused => ttsState == TtsState.paused;
  bool get isContinued => ttsState == TtsState.continued;  

  @override
  initState() {
    super.initState();
    _voiceConfig(); // เรียกใช้งานตั้งค่าเสียง TTS
    _focusNode = FocusNode(); // กำหนดค่าให้โฟกัสโหนด

    // ตรวจจับการโฟกัสที่กล่องแก้ไขข้อความ focused/unfocused
    _focusNode.addListener(() {
      setState(() {
        // แล้วอัปเดทสถาานะการโฟกัส
        _isFocused = _focusNode.hasFocus;
      });
    });    
    
  }

  // ฟังก์ชั่นตั้งค่าเสียง TTS
  void _voiceConfig() async {
    await flutterTts.setLanguage("th-TH"); // กำหนดภาษา th-TH
    await flutterTts.setPitch(1.0);        // กำหนด pitch ของเสียง (1.0 คือปกติ 0.5-2.0)
    await flutterTts.setSpeechRate(0.5);   // กำหนด speed ของเสียง (0.5 คือปกติ 0.0-1.0) 

    // เรียกใช้ฟังก์ชั่นให้รอจนกว่าการพูดด้วย Flutter TTS จะจบก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
    _setAwaitOptions();

    // เมื่อการเริ่มเล่นเสียงถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setStartHandler(() {
      setState(() {
        print("Playing");
        ttsState = TtsState.playing; // อัปเดทสถานะเป็นกำลังเล่น
      });
    });

    // เมื่อการเล่นเสียงสิ้นสุด ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setCompletionHandler(() {
      setState(() {
        print("Complete");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถานะเป็นหยุด
      });
    });

    // เมื่อการยกเลิก ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setCancelHandler(() {
      setState(() {
        print("Cancel");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถาานะเป็นหยุด
      });
    });

    // เมื่อการหยุดชั่วคราว ถูเรียกใช้งาน
    flutterTts.setPauseHandler(() {
      setState(() {
        print("Paused");
        ttsState = TtsState.paused; // อัปเดทสถานะเป็นหยุดชั่วคราว
      });
    });

    // เมื่อการเริ่มเล่นเสียงต่อ ถูกเรียกใช้งาน
    flutterTts.setContinueHandler(() {
      setState(() {
        print("Continued");
        ttsState = TtsState.continued; // อัปเดทสถานะเป็นเล่นต่อ
      });
    });

    // เมื่อเกิด error ขึ้น
    flutterTts.setErrorHandler((msg) {
      setState(() {
        print("error: $msg");
        ttsState = TtsState.stopped; // อัปเดทสถานะเป็นหยุด
      });
    });

  }

  // ฟังก์ชั่น บอกให้โปรแกรมรอจนกว่าการพูดด้วย Flutter TTS จะจบก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
  Future<void> _setAwaitOptions() async {
    await flutterTts.awaitSpeakCompletion(true);
  }

  // ฟังก์ชันสำหรับแปลงข้อความเป็นเสียง
  Future _speak(String text) async {
    await flutterTts.setVolume(volume); // ปรับค่าความดังของเสียงตามระดับที่ปรับ
    await flutterTts.setPitch(pitch);  // ปรับค่าระดับโทนเสียงตามค่าที่ปรับ  
    await flutterTts.setSpeechRate(rate); // ปรับค่าอัตราความเร็วของเสียงตามค่าที่ปรับ

    await flutterTts.speak(text); // เริ่มพูดข้อความ
  }

  // ฟังก์ชั่นสำหรับหยุดอ่านออกเสียง
  Future<void> _stop() async {
    var result = await flutterTts.stop(); // ทำคำสังหยุด
    if (result == 1) setState(() => ttsState = TtsState.stopped); // อัปเดทสถานะ
  }

  // ฟังก์ชั่นสำหรับหยุดอ่านออกเสียงชั่วคราว
  Future<void> _pause() async {
    var result = await flutterTts.pause(); // ทำคำสังหยุดชั่วคราว
    if (result == 1) setState(() => ttsState = TtsState.paused); // อัปเดทสถานะ
  }  

  // ฟังก์ชันสำหรับการวางข้อความจาก Clipboard
  Future<void> pasteFromClipboard() async {
    ClipboardData? clipboardData = await Clipboard.getData('text/plain');
    if (clipboardData != null) {
      setState(() {
        _controller.text = clipboardData.text!;
      });
    }
  }  

  // ฟังก์ชั่นดึงข้อมูลรายการภาษาที่รองรับของแพ็กเก็จที่เลือก
  Future<dynamic> _getLanguages() async => await flutterTts.getLanguages;

  // ฟังก์ชั่นดึงข้อมูลรายการแพ็กเก็จภาษาหรือ engines ภาษาที่ติดต้้งในเครื่อง ถ้ามี
  Future<dynamic> _getEngines() async => await flutterTts.getEngines;  

  // ฟังก์ชั่นแสดงลิสรายการแพ็กเก็จภาษาหรือ engines ภาษาที่ติดต้้งในเครื่อง ถ้ามี
  List<DropdownMenuItem<String>> getEnginesDropDownMenuItems(
      List<dynamic> engines) {
    var items = <DropdownMenuItem<String>>[];
    for (dynamic type in engines) {
      items.add(DropdownMenuItem(
          value: type as String?, child: Text((type as String))));
    }
    return items;
  }

  // ฟังก์ชั่นแสดงลิสรายการภาษาที่รองรับของแพ็กเก็จที่เลือก
  List<DropdownMenuItem<String>> getLanguageDropDownMenuItems(
      List<dynamic> languages) {
    var items = <DropdownMenuItem<String>>[];
    for (dynamic type in languages) {
      items.add(DropdownMenuItem(
          value: type as String?, child: Text((type as String))));
    }
    return items;
  }

  // ส่วนของการแสดงตัวตั้งค่าการอ่านออกเสียงผ่าน bottomsheet
  void _showBottomSheet(BuildContext context) {
    showModalBottomSheet(
      context: context,
      builder: (context) {
          return StatefulBuilder( // ใช้เพื่อส่งฟังก์ชั่น setState เข้าไปใช้งาน
          builder: (BuildContext context, StateSetter setState ) {
            return Padding(
              padding: const EdgeInsets.all(16.0),
              child: Column(
                mainAxisSize: MainAxisSize.min,
                children: [
                  Row(
                    children: [
                      const Text('Settings', style: TextStyle(
                        fontSize: 18, fontWeight: FontWeight.bold)),
                      const Spacer(),
                      TextButton( // ปุ่ม reset ค่าเพิ่มต้น
                        onPressed: (){
                          setState(() {
                            volume = 0.5;
                            pitch = 1.0;
                            rate = 0.5;
                            language = null;
                            engine = null;
                          });
                        }, 
                        child: const Text('Reset',style: TextStyle(
                          color: Colors.red,
                          fontSize: 18, fontWeight: FontWeight.bold)),
                      )
                    ],
                  ),
                  _engineSection(setState), // ส่วนเลือกแพ็กเก็จเสียงที่รองรับ
                  _futureBuilder(setState),  // ส่วนเลือกภาษา              
                  _buildSliders(setState), // แสดง slider ปรับค่าต่างๆ
                ],
              ),
            );
          });
      },
    );
  }

  @override
  void dispose() {
    // ล้างค่าส่วนใช้งานต่างๆ ก่อน
    _controller.dispose();  // ล้างค่าตัวควบคุม
    _focusNode.dispose(); // ล้างค่าตัวเชื่อมโฟกัส
    flutterTts.stop();      // หยุดการดำเนินการของ TTS ทั้งหมด

    // ควรเรียกใช้ super.dispose() หลังสุด
    super.dispose();
  }  

  @override
  Widget build(BuildContext context) {
    return Scaffold(
      appBar: AppBar(
        title: const Text("TTS Example"),
        actions: [
          // ปุ่มเคลียร์ข้อความ แสดงเมื่อข้อความไม่ว่าง
          if(_controller.text.isNotEmpty) 
          TextButton(
            onPressed: (){
              setState(() {
                _controller.text = '';
              });
            }, 
            child: const Text('Clear'),
          ),
          // สำหรับปุ่มวางข้อความจาก clipboard
          IconButton(
            icon: const Icon(Icons.paste),
            onPressed: pasteFromClipboard, // เรียกฟังก์ชันวางข้อความจาก Clipboard
          ),
          IconButton(
            onPressed: () {
              // แสดงการตั้งค่าผ่าน BottomSheet 
              // การใช้งาน BottomSheet จะทำให้เราจัดการค่า state โดยใช้ setstate โดยตรงไม่ได้
              // จึงมีการส่งฟังก์ชั้น setState เข้าไป
              _showBottomSheet(context); 
            },
            icon: Icon(Icons.settings),
          ),          
        ],
      ),
      body: Stack(
        children: [
          // ส่วนของช่องกรอกข้อความ
          TextField(
            controller: _controller, // เชื่อมกับตัวควบคุม
            focusNode: _focusNode, // เชื่อมกับตัวควบคุมการโฟกัส
            style: TextStyle(
              fontSize: 20,
            ),              
            maxLines: 50, // บรรทัดสูงสุดไม่เกิน
            keyboardType: TextInputType.multiline, // แป้นพิมพ์รองรับปุ่มขึ้นบรรทัดใหม่
            decoration: InputDecoration(
              border: InputBorder.none, // ไม่มีขอบ
              hintText: "กรอกข้อความตรงนี้", // ข้อความช่วยเหลือ ข้อความแนะนำ
              hintStyle: TextStyle( // กำหนดรูปแบบสี ขนาด
                color: Colors.grey[500],
              ),
              fillColor: Color(0xFFfdf8ef), // สีพื้นหลัง
              filled: true, // การเติมสี
            ),              
          ),
          // แสดงเมื่อกำลังแก้ไขข้อความอยู่่
          // ใช้ซ่อนแป้นพิมพ์ หรืออกจากโหมดแก้ไขข้อความ เมือกด
          if(_isFocused)
          Positioned(
            bottom: 16,
            left: 16,
            child: FloatingActionButton(
              elevation: 0, // Set elevation to 0 to remove shadow
              mini: true,
              onPressed: () {
                // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                _focusNode.unfocus();
              },
              heroTag: 'done_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: const Icon(Icons.arrow_drop_down),
            ),
          ),    
          // ส่วนของกรแสดงปุ่มหยุดโดยเฉพาะ แสดงเมื่อ กำลังเล่น หยุดชั่วคราว และกำลังเล่นต่อ
          if(isPlaying || isPaused || isContinued)   
          Positioned(
            bottom: 16,
            right: 80,
            child: FloatingActionButton(
              backgroundColor: Colors.red,
              elevation: 0, // กำหนดการยกเสูงเป็น 0 เพื่อไม่แสดงเงา
              shape: const CircleBorder(),
              onPressed: () {
                _focusNode.unfocus(); // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                // ถ้ากำลังเล่น หยุดชั่วคราว และกำลังเล่นต่อ ถ้ากดหยุด 
                if(isPlaying || isPaused || isContinued){
                  _stop(); // ให้ทำคำสั่งหยุดอ่านออกเสียง
                }
              },
              heroTag: 'stop_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: const Icon(Icons.stop),
            ),
          ),      
          // แสดงปุ่มเมื่อมีข้อความ หรือไม่เป็นค่าว่าง         
          if(_controller.text.isNotEmpty)      
          Positioned(
            bottom: 16,
            right: 16,
            child: FloatingActionButton(
              elevation: 0, // กำหนดการยกเสูงเป็น 0 เพื่อไม่แสดงเงา
              shape: const CircleBorder(),
              onPressed: () {
                _focusNode.unfocus(); // ซ่อนแป้นพิมพ์ ออกจากแก้ไขข้อความ
                // ถ้ากำลังเล่นหรือ กำลังเล่นต่อยู่ เมื่อกดให้ หยุดชั่วคราว
                if(isPlaying || isContinued){
                  _pause(); // ทำคำสั่งหยุดชั่วคราว
                }
                // ถ้าหยุดอยู่ หรือ หยุดชั่วคราว เมื่อกด ให้เล่น หรือเล่นต่อ
                if(isStopped || isPaused){
                  String text = _controller.text;
                  if(text.isNotEmpty){
                    _speak(text); // ทำคำสั่งอ่านออกเสียงต่อ
                  }
                }
              },
              heroTag: 'play_pause_btn', // Set a unique tag ต้องกำหนด
              child: isPlaying || isContinued // ถ้ากำลังเล่น หรือเล่นต่อ
              ? const Icon(Icons.pause) // แสดงปุ่มหยุดชั่วคราว
              : const Icon(Icons.play_arrow), // เป็นอย่างอื่นแสดงปุ่มเล่น หรือเล่นต่อ
            ),
          ),          
        ],
      ),
    );
  }

  // ส่วนของการดึงข้อมูลแพ็กเก็จเสียงที่มีในเครื่องมาแสดงให้เลือก
  Widget _engineSection(void Function(void Function()) parentSetState) {
    return FutureBuilder<dynamic>(
        future: _getEngines(), // ดังข้อมูลแพ็กเก็จเสียง
        builder: (BuildContext context, AsyncSnapshot<dynamic> snapshot) {
          if (snapshot.hasData) {
            // แสดงรายการแพ็กเก็จเสียงให้เลือกใน dropdown
            return _enginesDropDownSection(snapshot.data as List<dynamic>, parentSetState);
          } else if (snapshot.hasError) {
            return const Text('Error loading engines...'); // เกิดข้อผิดพลาดของการโหลด
          } else {
            return const Text('Loading engines...'); // กำลังโหลดรายการแอปแพ็กเก็จเสียง
          }         
        });
  }

  // ส่วนของการดึงข้อมูลภาษาที่รองรับของแพ็กเกิจเสียงที่เลือก  
  Widget _futureBuilder(void Function(void Function()) parentSetState) => FutureBuilder<dynamic>(
    future: _getLanguages(), // ดึงข้อมูลภาษาในแพ็กเก็จเสียง
    builder: (BuildContext context, AsyncSnapshot<dynamic> snapshot) {
      if (snapshot.hasData) {
        // มีข้อมูล แสดงรายการภาษาออกไปให้เลือกใน dropdown
        return _languageDropDownSection(snapshot.data as List<dynamic>, parentSetState);
      } else if (snapshot.hasError) {
        return const Text('Error loading languages...'); // เกิดข้อผิดพลาด
      } else{
        return const Text('Loading Languages...'); // กำหนดโหลดภาษาที่รองรับ
      }
  });

  // ส่วนของตัวจัดการแพ็กเก็จเสียงพูด ถ้าเป็นของ google มักจะเป็น com.google.android.tts
  Widget _enginesDropDownSection(List<dynamic> engines,
    void Function(void Function()) parentSetState) => Container(
        padding: const EdgeInsets.only(top: 10.0),
        child: DropdownButton(
          value: engine,
          items: getEnginesDropDownMenuItems(engines),
          onChanged: (selectedEngine) async {
            // ตั้งค่าเป็นแพ็กเก็จเสียงที่เลือก เพื่อใช้งาน
            await flutterTts.setEngine(selectedEngine!);
            language = null; // เมื่อเปลี่ยนแพ็กเก็จ ก็ให้ค่า ภาษาเป็น null เพื่อจะได้เลือกใหม่
            parentSetState(() {
              engine = selectedEngine;
              // กำหนดตัวแพ็กเก็จเสียงที่ใช้งาน
            });
          }
        ),
      );

  // ส่วนของการเลือกภาษาที่รองรับจาก และมีติดตั้งไว้แล้วหรือไม่เมื่อเลือกภาษานั้นๆ
  Widget _languageDropDownSection(List<dynamic> languages,
    void Function(void Function()) parentSetState) => Container(
      padding: const EdgeInsets.only(top: 10.0),
      child: Row(mainAxisAlignment: MainAxisAlignment.center, children: [
        DropdownButton(
          value: language,
          items: getLanguageDropDownMenuItems(languages),
          onChanged: (selectedType){
            parentSetState(() {
              language = selectedType; // กำหนดภาษาจากที่เลือก
              flutterTts.setLanguage(language!); // ตั้งค่าเป็นภาษาที่เลือก
              // ตรวจสอบและคืนค่าว่าได้ติดตั้งไว้แล้วหรือไม่
              flutterTts
                  .isLanguageInstalled(language!)
                  .then((value) => isCurrentLanguageInstalled = (value as bool));
            });            
          }
        ),
        Text("Is installed: $isCurrentLanguageInstalled"), // แสดงว่าภาษาที่เลือกได้ติดตั้งแล้วหรือไม่
      ]));

  // ส่วนจัดการตัวควบคุมต่างๆ จริงๆ เราสามารถนำมาแทรกไว้ในนี้ทั้งหมด โดยไม่ต้องแยกก็ได้
  // แต่เมื่อเราทำแยกเป็นส่วนๆ พอมีการส่งค่าการกำหนด state เลยต้องส่งต่อเป็นทอดๆ เพื่อใช้งาน
  Widget _buildSliders(void Function(void Function()) parentSetState) {
    return Column(
      children: [
        _volume(parentSetState), // ตัวควบคุมความดังของเสียงพูด
        _pitch(parentSetState),  // ตัวควบคุมระดับโทนเสียง
        _rate(parentSetState)], // ตัวควบคุมอัตราเร็วการพูด
    );
  }

  // ส่วนของตัวควบคุมความดังของเสียง รับค่า state function เข้ามาใช้งาน
  Widget _volume(void Function(void Function()) parentSetState) {
        return Column(
          children: [
            Row(
              mainAxisAlignment: MainAxisAlignment.spaceBetween,
              children: [
                Text('0.0'),  // ค่าต่ำสุด
                Expanded(
                  child: Slider(
                    value: volume,
                    onChanged: (newVolume) {
                      // จำกัดทศนิยม 1 ตำแหน่ง
                      parentSetState(() => volume = double.parse(newVolume.toStringAsFixed(1)));  
                    },
                    min: 0.0,
                    max: 1.0,
                    divisions: 10,  // มีการแบ่งเป็น 10 ระดับ
                    label: "Volume: ${volume.toStringAsFixed(1)}",  // แสดงค่า volume ปัจจุบันใน label
                  ),
                ),
                Text('1.0'),  // ค่าสูงสุด
              ],
            ),
            Text('Current volume: ${volume.toStringAsFixed(1)}'),  // แสดงค่าปัจจุบันใต้ slider
          ],
        );        
  }

  // ส่วนของตัวควบคุมปรับระดับโทนเสียง รับค่า state function เข้ามาใช้งาน
  Widget _pitch(void Function(void Function()) parentSetState) {
    return Column(
      children: [
        Row(
          mainAxisAlignment: MainAxisAlignment.spaceBetween,
          children: [
            Text('0.5'),  // ค่าต่ำสุด
            Expanded(
              child: Slider(
                value: pitch,
                onChanged: (newPitch) {
                  // จำกัดทศนิยม 1 ตำแหน่ง
                  parentSetState(() => pitch = double.parse(newPitch.toStringAsFixed(1))); 
                },
                min: 0.5,
                max: 2.0,
                divisions: 15,  // มีการแบ่ง 15 ระดับ
                label: "Pitch: ${pitch.toStringAsFixed(1)}",  // แสดงค่าปัจจุบันในรูปทศนิยม 1 ตำแหน่ง
                activeColor: Colors.red,
              ),
            ),
            Text('2.0'),  // ค่าสูงสุด
          ],
        ),
        Text('Current pitch: ${pitch.toStringAsFixed(1)}'),  // แสดงค่าปัจจุบันใต้ slider
      ],
    );    
  }

  // ส่วนของตัวควบคุมกรปรับอัตราการเล่น รับค่า state function เข้ามาใช้งาน
  Widget _rate(void Function(void Function()) parentSetState) {
    return Column(
      children: [
        Row(
          mainAxisAlignment: MainAxisAlignment.spaceBetween,
          children: [
            Text('0.0'),  // ค่าต่ำสุด
            Expanded(
              child: Slider(
                value: rate,
                onChanged: (newRate) {
                  parentSetState(() => rate = newRate);
                },
                min: 0.0,
                max: 1.0,
                divisions: 10,
                label: "Rate: ${rate.toStringAsFixed(2)}",  // แสดงค่า rate ปัจจุบันใน slider
                activeColor: Colors.green,
              ),
            ),
            Text('1.0'),  // ค่าสูงสุด
          ],
        ),
        Text('Current rate: ${rate.toStringAsFixed(2)}'), // แสดงค่าปัจจุบันของ slider ด้านล่าง
      ],
    );

  }

}
 
 

ผลลัพธ์ที่ได้



 
 
เราสามารถกดไปที่เมนูตั้งค่าด้านบนมุมขวา แล้วเลือกตั้งค่าเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือก engines 
หรือแพ็กเก็จเสียงในเครื่องถ้ามีติดตั้งเพิ่มเติม แล้วเลือกภาษาที่จะใช้งาน จากนั้นสามารถกำหนดระดับ
ความดังของเสียง ระดับของโทนเสียง และความเร็วของการพูดหรืออัตราเร็วเสียงพูดได้ตามต้องการ
แนวทางนี้เหมาะสำหรับปรับใช้งานกับการจัดการเสียงพูดที่รองรับหลากหลายได้ เช่น ต้องการใช้งานร่วม
กับ engines ตัวอื่นหรือแพ็กเก็จเสียงตัวอื่น ต้องการให้อ่านเร็วขึ้น เพิ่มความดัง เหล่านี้ก็จะปรับได้มาก
กว่ารูปแบบตัวอย่างแรก ใช้สำหรับหน้าตั้งค่าเพิ่มเติมถ้าต้องการ
 
    เนื้อหาตอนหน้าจะเป็นอะไร จะเป็นการประยุกต์ต่อจากบทความนี้หรือไม่รอติดตาม


กด Like หรือ Share เป็นกำลังใจ ให้มีบทความใหม่ๆ เรื่อยๆ น่ะครับ



อ่านต่อที่บทความ



ทบทวนบทความที่แล้ว









เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง






เนื้อหาพิเศษ เฉพาะสำหรับสมาชิก

กรุณาล็อกอิน เพื่ออ่านเนื้อหาบทความ

ยังไม่เป็นสมาชิก

สมาชิกล็อกอิน



( หรือ เข้าใช้งานผ่าน Social Login )




URL สำหรับอ้างอิง





คำแนะนำ และการใช้งาน

สมาชิก กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ เพื่อตั้งคำถามใหม่ หรือ ตอบคำถาม สมาชิกใหม่ สมัครสมาชิกได้ที่ สมัครสมาชิก


  • ถาม-ตอบ กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ
  • เปลี่ยน


    ( หรือ เข้าใช้งานผ่าน Social Login )







เว็บไซต์ของเราให้บริการเนื้อหาบทความสำหรับนักพัฒนา โดยพึ่งพารายได้เล็กน้อยจากการแสดงโฆษณา โปรดสนับสนุนเว็บไซต์ของเราด้วยการปิดการใช้งานตัวปิดกั้นโฆษณา (Disable Ads Blocker) ขอบคุณครับ