ค้นหาสถานที่ ในฐานข้อมูล และแสดง ตำแหน่งบนแผนที่ google map แบบง่าย

เขียนเมื่อ 11 ปีก่อน โดย Ninenik Narkdee
mysql ค้นหาสถานที่ ฐานข้อมูล jquery php google map javascript

คำสั่ง การ กำหนด รูปแบบ ตัวอย่าง เทคนิค ลูกเล่น การประยุกต์ การใช้งาน เกี่ยวกับ mysql ค้นหาสถานที่ ฐานข้อมูล jquery php google map javascript

ดูแล้ว 27,330 ครั้ง


โค้ดตัวอย่าง และคำอธิบายคร่าวๆ นี้ เป็นแนวทาง
ในการค้นหาข้อมูล สถานที่ ที่ได้ทำการบันทึกในฐานข้อมูลแล้ว
โดยมีชื่อสถานที่ และพิกัดของตำแหน่งสถานที่ อ้างอิงสำหรับ google map
หลักการงาน คือ
ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูล เมื่อพบ ข้อมูลที่ตรง ก็ให้ทำการนำข้อมูลที่ได้
ไปแสดง ใน google map โดยใช้ รายละเอียดพิกัด จากฐานข้อมูลมาเป็นตัวกำหนด
ตำแหน่งของสถานที่นั้นๆ

ในที่นี้จะเป็นการส่งค่าอย่างง่าย คือ กรอกข้อมูล แล้ว submit ค่าปกติ
โดยประยุกต์ ร่วมกับ การใช้งาน ajax ใน jQuery

(มีไฟล์ตัวอย่างให้ดาวน์โหลด)
https://www.ninenik.com/download/simple_google_map_search_with_db.rar

ไฟล์แรก genMarker.php
จะใช้ในการแสดงข้อมูล ของสภานที่ในฐานข้อมูล มาแสดง โดยส่งค่าออกมาเป็นไฟล์ xml
แล้วนำค่าที่ได้ไปใช้งาน
ตัวอย่างโค้ด


 

<?php
header("Content-type:text/xml; charset=UTF-8");              
header("Cache-Control: no-store, no-cache, must-revalidate");             
header("Cache-Control: post-check=0, pre-check=0", false);   
mysql_connect("localhost","root","") or die("Cannot connect the Server");
mysql_select_db("test") or die("Cannot select database");
mysql_query("set character set utf8");
echo '<?xml version="1.0" encoding="utf-8"?>';
// 6-7 บรรทัดแรกด้านบน เป็นการกำหนด ให้ไฟล์นี้ส่งออกเป็นไฟล์ แบบ xml
// และการกำหนดการเชิ่อมต่อกับฐานข้อมูล
?>
<markers>
<?php
$q_search=""; // กำหนดตัวแปร เพื่อรอรับการ ส่งคำสั่งตามเงื่อนไข การค้นหา
$q_limit=""; // กำหนดตัวแปร เพื่อรอรับการ เลือกจำกัดข้อมูลที่ต้องการแสดง
if(isset($_GET['data_search']) && $_GET['data_search']!=""){ // ถ้า มีการส่งค่า คำค้นหามา และค่านั้นไม่ใช่ค่าว่าง
	// กำหนด รูปแบบคำสั่ง sql ในตัวแปรที่สร้างไว้ตอนต้น
	$q_search=" AND province_name like '%".$_GET['data_search']."%' ";
}else{
	// ถ้าไม่มีการส่งค่า ไม่ให้แสดง ตำแหน่งในแผนที่ ให้กำหนด LIMIT 0
	//  แต่ถ้า ต้องการแสดงเริ่มต้น ให้กำหนดจำนวนตามต้องการ เช่น LIMIT 10	
	$q_limit=" LIMIT 0 ";
}
// ชุดคำสั่ง sql ในการดึงข้อมูล จากฐานข้อมูลมาแสดง
$q="SELECT * FROM province_th WHERE 1 $q_search ORDER BY province_id  $q_limit ";
$qr=mysql_query($q);
while($rs=mysql_fetch_array($qr)){
?>
	<marker id="<?=$rs['province_id']?>">
        <name><?=$rs['province_name']?></name>
        <latitude><?=$rs['province_lat']?></latitude>
        <longitude><?=$rs['province_lon']?></longitude>
    </marker>
<?php } ?>
</markers>




ใช้ข้อมูลตามตัวอย่างตามลิ้งค์ด้านล่าง

ฐานข้อมูลจังหวัด และพิกัด ดึงข้อมูลจาก google map เป็นฐานข้อ

https://www.ninenik.com/content.php?arti_id=454 via @ninenik

ไฟล์ที่สอง ไฟล์ทดสอบ การค้นหา และแสดง google_map_v3_search_with_db.php
ตัวอย่างโค้ด


 

<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" 
"http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>Google Map API 3 - serch with db</title>
<style type="text/css">
html { height: 100% }
body { 
	height:100%;
	margin:0;padding:0;
	font-family:tahoma, "Microsoft Sans Serif", sans-serif, Verdana;
	font-size:12px;
}
/* css กำหนดความกว้าง ความสูงของแผนที่ */
#map_canvas { 
	width:650px;
	height:500px;
	margin:auto;
	margin-top:50px;
}
#form_search_data { 
	width:450px;
	height:30px;
	margin:auto;
	margin-top:10px;
}
</style>


</head>

<body>
    <div id="form_search_data">
      <form id="form_search_map_data" name="form_search_map_data" method="post" action="">
        <input type="text" name="data_search" id="data_search" value="<?=$_POST['data_search']?>" style="width:300px;" />
        <input type="submit" name="bt_search" id="bt_search" value="Search" />
      </form>
    </div>
    <div id="map_canvas"></div>
 

<script src="http://ajax.googleapis.com/ajax/libs/jquery/1.8.3/jquery.min.js"></script>  
<script type="text/javascript">
var map; // กำหนดตัวแปร map ไว้ด้านนอกฟังก์ชัน เพื่อให้สามารถเรียกใช้งาน จากส่วนอื่นได้
var GGM; // กำหนดตัวแปร GGM ไว้เก็บ google.maps Object จะได้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น
function initialize() { // ฟังก์ชันแสดงแผนที่
	GGM=new Object(google.maps); // เก็บตัวแปร google.maps Object ไว้ในตัวแปร GGM
	// กำหนดจุดเริ่มต้นของแผนที่
	var my_Latlng  = new GGM.LatLng(13.761728449950002,100.6527900695800);
	// กำหนด DOM object ที่จะเอาแผนที่ไปแสดง ที่นี้คือ div id=map_canvas
	var my_DivObj=$("#map_canvas")[0]; 
	// กำหนด Option ของแผนที่
	var myOptions = {
		zoom: 6, // กำหนดขนาดการ zoom
		center: my_Latlng , // กำหนดจุดกึ่งกลาง
		mapTypeId:GGM.MapTypeId.ROADMAP, // กำหนดรูปแบบแผนที่
		mapTypeControlOptions:{ // การจัดรูปแบบส่วนควบคุมประเภทแผนที่
			position:GGM.ControlPosition.TOP, // จัดตำแหน่ง
			style:GGM.MapTypeControlStyle.DROPDOWN_MENU // จัดรูปแบบ style 
		}
	};
	map = new GGM.Map(my_DivObj,myOptions);// สร้างแผนที่และเก็บตัวแปรไว้ในชื่อ map
	
	$.ajax({
		url:"genMarker.php", // ใช้ ajax ใน jQuery เรียกใช้ไฟล์ xml
		type: "GET", // ส่งค่าข้อมูลแบบ POST ไปที่ไฟล์ genMarker.php
		data: { data_search : "<?=$_POST['data_search']?>"}, //รับค่า จากการ submit ฟอร์ม ส่งไปค้นหาข้อมูล
		dataType: "xml",
		success:function(xml){
//			console.log(xml);
			$(xml).find('marker').each(function(){ // วนลูปดึงค่าข้อมูลมาสร้าง marker
					var markerID=$(this).attr("id");// นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน	
					var markerName=$(this).find("name").text(); // นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน	
					var markerLat=$(this).find("latitude").text(); // นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน	
					var markerLng=$(this).find("longitude").text();	// นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน			
					var markerLatLng=new GGM.LatLng(markerLat,markerLng);
					var my_Marker = new GGM.Marker({ // สร้างตัว marker
						position:markerLatLng,  // กำหนดไว้ที่เดียวกับจุดกึ่งกลาง
						map: map, // กำหนดว่า marker นี้ใช้กับแผนที่ชื่อ instance ว่า map
						title:markerName // แสดง title เมื่อเอาเมาส์มาอยู่เหนือ
					});
//					console.log($(this).find("id").text());
			});
		}	
	});		

}
$(function(){
	// โหลด สคริป google map api เมื่อเว็บโหลดเรียบร้อยแล้ว
	// ค่าตัวแปร ที่ส่งไปในไฟล์ google map api
	// v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize
	//	v เวอร์ชัน่ 3.2
	//	sensor กำหนดให้สามารถแสดงตำแหน่งทำเปิดแผนที่อยู่ได้ เหมาะสำหรับมือถือ ปกติใช้ false
	//	language ภาษา th ,en เป็นต้น
	//	callback ให้เรียกใช้ฟังก์ชันแสดง แผนที่ initialize
	$("<script/>", {
	  "type": "text/javascript",
	  src: "//maps.google.com/maps/api/js?v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize"
	}).appendTo("body");	
});
</script>  
</body>
</html>

 



กด Like หรือ Share เป็นกำลังใจ ให้มีบทความใหม่ๆ เรื่อยๆ น่ะครับ











URL สำหรับอ้างอิง





คำแนะนำ และการใช้งาน

สมาชิก กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ เพื่อตั้งคำถามใหม่ หรือ ตอบคำถาม สมาชิกใหม่ สมัครสมาชิกได้ที่ สมัครสมาชิก


  • ถาม-ตอบ กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ
  • เปลี่ยน


    ( หรือ เข้าใช้งานผ่าน Social Login )







เว็บไซต์ของเราให้บริการเนื้อหาบทความสำหรับนักพัฒนา โดยพึ่งพารายได้เล็กน้อยจากการแสดงโฆษณา โปรดสนับสนุนเว็บไซต์ของเราด้วยการปิดการใช้งานตัวปิดกั้นโฆษณา (Disable Ads Blocker) ขอบคุณครับ