การ mark maps จากฐานข้อมูลตามเงื่อนไขที่ได้จากการ search
ถาม-ตอบ แนะนำไอเดียว โค้ดตัวอย่าง แนวทาง วิธีแก้ปัญหา การ mark maps จากฐานข้อมูลตามเงื่อนไขที่ได้จากการ search
การ mark maps จากฐานข้อมูลตามเงื่อนไขที่ได้จากการ search
Copy
นี่คือโค้ดที่สร้างไฟล์ xml ค่ะ คือใส่ค่า latitude,longtitude และ distance(รัศมีที่ต้องการให้ค้นหา)แล้วก็เลือกค่า latitude,longitudeเฉพาะที่อยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดแล้วนำมา mark ใน maps ซึ่งไฟล์ xml ก็แสดงค่าที่ต้องการออกมาได้ค่ะ แต่ตอนที่จะนำไป mark ในแผนที่มันกลับไม่ขึ้นตัว mark ให้ค่ะ มันโชว์แต่แผนที่ รบกวนช่วยดูให้หน่อยนะคะว่ามีจุดผิดตรงไหนโค้ดแรกคือ โค้ดสร้างไฟล์ xml ค่ะ ส่วนโค้ดที่สองคือ โค้ดแสดงแผนที่ค่ะ โค้ดแรก <?php header("Content-type:text/xml; charset=UTF-8"); header("Cache-Control: no-store, no-cache, must-revalidate"); header("Cache-Control: post-check=0, pre-check=0", false); //header("Location: mapmapMarker1.php"); mysql_connect("localhost","root","apap777") or die("Cannot connect the Server"); mysql_select_db("ap") or die("Cannot select database"); mysql_query("set character set utf8"); echo '<?xml version="1.0" encoding="utf-8"?>'; ?> <markers> <?php $radius = 6371; $lat = $_POST['latvalue']; $long = $_POST['longvalue']; $distance = $_POST['distance']; // latitude boundaries $maxlat = $lat + rad2deg($distance / $radius); $minlat = $lat - rad2deg($distance / $radius); // longitude boundaries (longitude gets smaller when latitude increases) $maxlong = $long + rad2deg($distance / $radius / cos(deg2rad($lat))); $minlong = $long - rad2deg($distance / $radius / cos(deg2rad($lat))); $q="SELECT * FROM latlong WHERE Latitude between $minlat and $maxlat and Longtitude between $minlong and $maxlong"; $qr=mysql_query($q); while($rs=mysql_fetch_array($qr)){ ?> <marker> <name><?=$rs['APname']?></name> <Latitude><?=$rs['Latitude']?></Latitude> <Longtitude><?=$rs['Longtitude']?></Longtitude> </marker> <?php } ?> </markers> โค้ดที่สอง <!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd"> <html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml"> <head> <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" /> <title>Google Map API 3 - 01</title> <style type="text/css"> html { height: 100% } body { height:100%; margin:0;padding:0; font-family:tahoma, "Microsoft Sans Serif", sans-serif, Verdana; font-size:12px; } /* css กำหนดความกว้าง ความสูงของแผนที่ */ #map_canvas { width:450px; height:500px; margin:auto; margin-top:50px; } </style> </head> <body> <div id="map_canvas"></div> <script type="text/javascript" src="jquery-1.11.1.js"></script> <script type="text/javascript"> var map; // กำหนดตัวแปร map ไว้ด้านนอกฟังก์ชัน เพื่อให้สามารถเรียกใช้งาน จากส่วนอื่นได้ var GGM; // กำหนดตัวแปร GGM ไว้เก็บ google.maps Object จะได้เรียกใช้งานได้ง่ายขึ้น function initialize() { // ฟังก์ชันแสดงแผนที่ GGM=new Object(google.maps); // เก็บตัวแปร google.maps Object ไว้ในตัวแปร GGM // กำหนดจุดเริ่มต้นของแผนที่ var my_Latlng = new GGM.LatLng(13.761728449950002,100.6527900695800); // กำหนด DOM object ที่จะเอาแผนที่ไปแสดง ที่นี้คือ div id=map_canvas var my_DivObj=$("#map_canvas")[0]; // กำหนด Option ของแผนที่ var myOptions = { zoom: 7, // กำหนดขนาดการ zoom center: my_Latlng , // กำหนดจุดกึ่งกลาง mapTypeId:GGM.MapTypeId.ROADMAP, // กำหนดรูปแบบแผนที่ mapTypeControlOptions:{ // การจัดรูปแบบส่วนควบคุมประเภทแผนที่ position:GGM.ControlPosition.TOP, // จัดตำแหน่ง style:GGM.MapTypeControlStyle.DROPDOWN_MENU // จัดรูปแบบ style } }; map = new GGM.Map(my_DivObj,myOptions);// สร้างแผนที่และเก็บตัวแปรไว้ในชื่อ map $.ajax({ url:"mapgenMarker1.php", // ใช้ ajax ใน jQuery เรียกใช้ไฟล์ xml dataType: "xml", success:function(xml){ $(xml).find('marker').each(function(){ // วนลูปดึงค่าข้อมูลมาสร้าง marker var markerName=$(this).find("APname").text();// นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน var markerLatitude=$(this).find("Latitude").text(); var markerLongtitude=$(this).find("Longtitude").text(); // นำค่าต่างๆ มาเก็บไว้ในตัวแปรไว้ใช้งาน var markerLatLng=new GGM.LatLng(markerLatitude,markerLongtitude); var my_Marker = new GGM.Marker({ // สร้างตัว marker position:markerLatLng, // กำหนดไว้ที่เดียวกับจุดกึ่งกลาง map: map, // กำหนดว่า marker นี้ใช้กับแผนที่ชื่อ instance ว่า map title:markerAPname // แสดง title เมื่อเอาเมาส์มาอยู่เหนือ }); // console.log($(this).find("id").text()); }); } }); } $(function(){ // โหลด สคริป google map api เมื่อเว็บโหลดเรียบร้อยแล้ว // ค่าตัวแปร ที่ส่งไปในไฟล์ google map api // v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize // v เวอร์ชัน่ 3.2 // sensor กำหนดให้สามารถแสดงตำแหน่งทำเปิดแผนที่อยู่ได้ เหมาะสำหรับมือถือ ปกติใช้ false // language ภาษา th ,en เป็นต้น // callback ให้เรียกใช้ฟังก์ชันแสดง แผนที่ initialize $("<script/>", { "type": "text/javascript", src: "http://maps.google.com/maps/api/js?v=3.2&sensor=false&language=th&callback=initialize" }).appendTo("body"); }); </script> </body> </html>
So_ployy@hotmail.com
31-10-2014
18:35:31
คำแนะนำ และการใช้งาน
สมาชิก กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ เพื่อตั้งคำถามใหม่ หรือ ตอบคำถาม สมาชิกใหม่ สมัครสมาชิกได้ที่ สมัครสมาชิก
- ถาม-ตอบ กรุณา ล็อกอินเข้าระบบ
เว็บไซต์ของเราให้บริการเนื้อหาบทความสำหรับนักพัฒนา โดยพึ่งพารายได้เล็กน้อยจากการแสดงโฆษณา
โปรดสนับสนุนเว็บไซต์ของเราด้วยการปิดการใช้งานตัวปิดกั้นโฆษณา (Disable Ads Blocker) ขอบคุณครับ